“มังคุด” ช่วยพิชิตโรคร้าย

“มังคุด” ได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” (Queen of Fruits) ด้วยคุณประโยชน์ที่มังคุดมีให้มากกว่าความเป็นผลไม้ที่มีรสชาติ อร่อย หอม หวานกลมกล่อม และอยู่คู่กับคนไทยตลอดมา

แม้ในอดีตจะไม่มีการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ถึงคุณสมบัติของ “มังคุด” แต่คนไทยสมัยโบราณ รุ้จักและนำมังคุดมาแปรรูปเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่าง สารพัดไม่ว่าจะเป็นเปลือกมังคุดที่ใช้ฝนกับน้ำปูนใสทาแผลให้หายได้เร็วขึ้น หรือช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท่าหรือนำไปต้มกับน้ำใช้ดื่มเพื่อแก้อาการท้องร่วง ซึ่งล้วนเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน

ขณะที่การบริโภคเนื้อมังคุดมีกากใยช่วยในการขับถ่าย และมีสารอาหารวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ความนิยมบริโภคมังคุดที่แพร่หลาย ส่งผลให้มีเกษตรกรหันมาปลูกมังคุดมากขึ้น วิวัฒนาการของมังคุดมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น จนปัจจุบัน “มังคุด” ถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งมังคุดอบแห้ง น้ำมังคุด ไวน์มังคุด อาหารเสริมจากมังคุด ยาสระผม ครีมนวดผม สบู่โลชั่น ฯ ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ได้นำเสนอผลงานวิจัยมังคุด ที่ศึกษามายาวนานกว่า 32 ปี ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัยศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย กล่าวว่า “มังคุด” ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูง การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ พบว่ามังคุดมีสารต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพหากมีการนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง ผู้บริโภคควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะนำไปบริโภค จากผลการศึษาวิจัยพบว่าสารในมังคุดมีประโยชน์เชิงสุขภาพ โดยสามารปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล

คณะนักวิจัย (รศ. ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม, รศ. ดร.เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร และรศ.ดร. อำไพ ปั้นทอง) ได้พบว่าสารจากมังคุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือสาร GM-1 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และระงับปวดในสัตว์ทดลองโดยมีความแรงของฤทธิ์เป็น 3 เท่าของแอสไพริน ลดอาการแพ้ และแก้ปวดในหนูทดลอง ต้านอนุมูลอิสระได้ดีและทำลายเซลล์มะเร็งได้ จากการทดสอบความปลอดภัยพบว่า สาร GM-1 เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงและปลอดภัยกว่าสารธรรมชาติที่ให้รสเปรี้ยว (Citric acid) ในมะนาวและส้มถึง 5 เท่า

queenoffruits01จาก การร่วมวิจัยพัฒนาและทดสอบกับ บริษัท Henkel KGa ของประเทศเยอรมัน จึงได้มีการผลิตสบู่ เจลล้างหน้า ครีมบำรุง ครีมกันแดด ครีมอาบน้ำ ครีมสิว ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญคือ สารสกัดจากเปลือกมังคุด GM-1 ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกของโลก โดยไม่มี ส่วนผสมของ Tannins ในเปลือกมังคุด อันอาจทำให้ผิลคล้ำและเยี่ยวย่นได้อยู่ด้วย

ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ผลิตน้ำมังคุดมาตรฐานเพื่อให้เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ใช่เป็นยาโดยไม่ใช้ เปลือก ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล สี กลิ่นสังเคราะห์ และสารกันบูด พร้อมควบคุมปริมาณสารที่มีประโยชน์ในเนื้อมังคุดในขบวนการผลิตอย่างมี มาตรฐาน ในโครงการช่วยพยุงราคามังคุดที่ตกต่ำซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมังคุด

ปัจจุบัน น้ำมังคุดสกัดเข้มข้น “Bim” และน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น “Bim & Trim” สูตรกระชับสัดส่วน มีการจำหน่ายอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายกว่า 10 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ใต้หวัด อินโดนีเซีย ฯลฯ

นอกจากนี้ Asian Phytoceuticals Public Company Limited ทำการศึกษาการบริโภคน้ำมังคุด ดังกล่าว เป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน วันล่ะ 300 มล. สำหรับเป็นอาหารของผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้ายควบคู่กับการใช้ แคปซูล Operation ซึ่งดำเนินการโดย คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ควบคู่กับมหาวิทยาลัย ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และในเครือข่ายมหาวิทยาลัย ในแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา และในเครือข่ายมหาวิทยาลัยในประเทศอิตาลี โดยโครงการทั้งหมดได้เสร็จสมบูรณ์และได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก

ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า แม้มังคุดจะมีประโยชน์สารพัด และก็มีโทษโดยเฉพาะสาร แทนนิน (Tannins) ที่อยู่ในเปลือกมังคุด ซึ่งพบว่าการบริโภคสารแทนนิน อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดเป็นพิษต่อตับ ไต และการบริโภคสาร Tannins ในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่การเกิดมะเร็งในร่องแก้มในทางเดือนอาหารส่วนบน และลดจำนวนของเม็ดเลือดขาวจนทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติได้ ดังนั้นผู้บริโภคจึงควรเลือกบริโภคน้ำมังคุดที่ผลิตได้มาตรฐานเพื่อความ ปลอดภัยและได้ประโยชน์ต่อร่างกาย

Visitors: 74,673