Operation Bim กับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเมอร์ส
MERS ( เมอร์ส) ย่อมาจาก Middle East Respiratory Syndrome หรือ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง
“ไวรัสเมอร์ส” เป็นไวรัสประเภทโคโรนาไวรัส เกี่ยวกับการติดเชื้อ โดยโคโรนาไวรัสนี้เป็นสายพันธ์ไวรัสตระกูลใหญ่ อาทิ ไข้หวัด และโรคซาร์ หรือพวกโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ไวรัสเมอร์สนี้ไม่ใช่โรคซาร์
ทั้งนี้ เชื้อไวรัสเมอร์สเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2012 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีประชาชนเสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้มากกว่า 100 ราย นอกจากนั้น ยังมีแพร่กระจายไปประเทศอื่นอีก ได้แก่ จอร์แดน, การ์ต้า, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ตูนีเซีย, อียิปต์, อังกฤษ, สหรัฐฯ และล่าสุด เกาหลีใต้ ส่วนประเทศไทยล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย. 58 พบผู้ติดเชื้อ MERS แล้ว 1 ราย เดินทางมาจากประเทศโอมาน มีผู้เกี่ยวข้องที่ต้องเฝ้าระวังโรค 59 คน
สถานการณ์ของ MERS ในขณะนี้
- วันที่ 15 มิ.ย. 58 เสียชีวิต 15 ราย
- วันที่ 17 มิ.ย. 58 เสียชีวิต 19 ราย
- วันที่ 18 มิ.ย. 58 เสียชีวิต 23 ราย
- วันที่ 19 มิ.ย. 58 เสียชีวิต 24 ราย
- วันที่ 20 มิ.ย. 58 เสียชีวิต 24 ราย
- วันที่ 21 มิ.ย. 58 เสียชีวิต 25 ราย
การเกิดพยาธิสภาพ
- เกิดขึ้นเมื่อเชื้อถูกหายใจเข้าไปถึงหลอดลมส่วนปลาย และถุงลม เชื้อไปก่อโรคที่เนื้อปอด
- แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อสู้กับเชื้อไม่ทัน
- อาการรุนแรงขึ้นถ้าออกกำลังกายขณะที่เริ่มมีอาการหลอดลมหรือปอดอักเสบเล็กน้อย เพราะการหายใจแรงและเร็วเป็นการแพร่กระจายเชื้อไปทั่วปอดอย่างรวดเร็ว
อาการทางคลินิก
แสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ
- มีไข้
- ไอ ไอมีเสมหะ
- หอบ เหนื่อย
- ปอดอักเสบ
- หากอาการรุนแรงจะทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว
- มีอาการแทรกของภาวะไตวาย
วิธีป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงที่ชุมชนมากๆ
- สวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก
- ล้างมือบ่อยเมื่อจับต้องสิ่งของนอกบ้าน
- ไม่คลุกคลีกับผู้ที่ไอและมีเสมหะ
- หลีกเลี่ยงการดื่มนมอูฐ
- ผู้ติดเชื่อควรป้องกันการแพร่เชื้อโดยสวมหน้ากากอนามัย
การรักษา
- ยังไม่มียารักษาโดยตรง แต่เป็นการรักษาประคับประคองตามอาการ จนกว่าภูมิต้านทานของผู้ป่วยจะพัฒนาถึงระดับต่อสู้และทำลายเชื้อเองได้
-ในอนาคตอาจมีวัคซีนสำหรับป้องกัน(ซึ่งอาจจะเกิดจากการสร้าง Th17 เพิ่มขึ้น) การให้แอนดิบอดีแก่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีการค้นพบในอเมริกาว่ามีแอนดิบอดีประมาณ 7 ชนิด ที่ยับยั้งการรวมตัวของเชื้อกับผิวเซลล์ (จากการศึกษาแอนดิบอดีถึง 27 พันล้านชนิด)
- ในปัจจุบันเราสามารถกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาว Th1, T้h2 และ Th17 เพิ่มขึ้นโดยใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่สร้างภูมิคุ้มกัน
คณะนักวิจัย Operation BIM(bim100) ได้วิจัย และพัฒนาสารเสริมประสิทธิภาพจากสารมังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่งและบัวบก จนได้แคปซูลเสริมอาหาร ที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์แล้วว่า สามารถกระตุ้นการทำงานของ Th1 และ Treg ได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้น TH17 ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ข้อแนะนำสำหรับนักเดินทาง
- รับประทานสูตรคณะนักวิจัย APCO (สีเขียว) 2 แคปซูล ก่อนขึ้นเครื่องบิน และเพิ่มอีก 2 แคปซูลในระหว่างอยู่บนเครื่องบิน
- รับประทานสูตรคณะนักวิจัย APCO (สีเขียว) 2 แคปซูลก่อนอาหารเช้า และ 2 แคปซูลก่อนอาหารเย็น ทุกวันในระหว่างเดินทาง
ข้อแนะนำสำหรับชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ
ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและป้องกันเพิ่มเติมได้ดังนี้
1. สร้างภูมิคุ้มกันก่อนเดินทาง 15 วัน
โดยรับประทานสูตรคณะนักวิจัย APCO (สีเขียว) 2 แคปซูล ก่อนขึ้นอาหารเช้า และ 2 แคปซูลก่อนอาหารเย็นหรือก่อนนอน
2. รับประทานสูตรคณะนักวิจัย APCO (สีเขียว) 2 แคปซูล ก่อนขึ้นเครื่องบิน และเพิ่มอีก 2 แคปซุลในระหว่างอยู่บนเครื่องบิน
3. ในระหว่างการแสวงบุญที่นครเมกกะ รับประทานสูตรนักวิจัย APCO (สีเขียว) เพิ่มเป็น 3 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง
4. หากมีอาการไข้ในระหว่างแสวงบุญ ให้รับประทานสูตรนักวิจัยคณะ APCO (สีเขียว) 3 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ต่อเนื่อง 7 วัน
การสร้างภูมิเพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพด้วยวิธีนี้สามารถใช้ได้กับไวรัสอื่นๆ เช่น
1. ไวรัสตับอักเสบ
2. มือ-เท้า-ปากเปื่อย
3. ไข้เลือดออก
4. ชิคุนกุนย่า
5. ไข้หวีดนก
6. ไข้หวัดใหญ่ 2009
7. อีโบล่า
8. HIV (เอดส์)
*** สีเขียว 4 แคปซูล/วัน สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ป้องกันการติดเชิ้อไวรัสได้ ***
*** สีเขียว 9 แคปซูล/วัน ควรจะให้ผลมากกว่าการป้องกัน ***
