ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง(AIDS)

     ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง(AIDS) มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HIV จากทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด เช่น การถ่ายเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสัก การเจาะหู ร่วมกับผู้ติดเชื้อหรือการติดต่อจากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารก ตั้งแต่ระยะอยู่ในครรภ์ ระยะคลอด และระยะเลี้ยงดูหลังคลอด

     เมื่อเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย จะไปฝังตัวในเม็ดเลือดขาวชนิด CD4+(Th-cell) เพื่อแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และทำลายCD4+(Th-cell) จนมีจำนวนลดลงต่ำกว่า 350 เซลล์/ลบ.มม. (คนปกติมีค่า CD4+600-1,000 เซลล์ต่อเลือด 1 ลบ.มม.) ถือว่าเป็นระดับที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำมาก และผู้ติดเชื้อนี้ยังมีค่า Th1, Th2,Th17 และ Treg ในปริมาณที่ต่ำเช่นกัน (โดยมี TH17 ต่ำทีสุด) ส่งผลให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อวัณโรคและเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคนปกติ ปัจจุบันแนงทางการรักษาคือการหยุดยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV โดยการใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงของยากลุ่มนี้  เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ท้องเสีย ฝันร้ายใน 1-2 สัปดาห์แรกเป็นต้น หรืออาจจะไม่มีผลข้างเคียงจากยากลุ่มนี้ก็ได้ แต่ทว่าเมื่อใช้ยาต้านไวรัสไปสักระยะหนึ่งอาจก่อให้เกิดการดื้อยาขึ้นมาได้ เนื่องจากในกระบวนการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV มีโอกาสที่เชื้อตัวใหม่มีลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปจากเชื้อตัวเดิม ยาต้านไวรัสเดิมที่เคยใช้อยู่จึงไม่ได้ผล มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นยาต้านไวรัสชนิดใหม่ไปเรื่อยๆ

     จากข้อมูลทางภูมิคุ้มกันวิทยาพบว่า ภูมิคุ้มกันที่สมดุลขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่อย่างสมดุลของเม็ดเลือดขาวทั้ง 4 ชนิดคือ

1. Th1   กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส และมะเร็งได้ดีขึ้น

2. Th2   กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับสารก่อภูมิแพ้ และหนอนพยาธิได้ดีขึ้น

3. Th17 กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจัดการกับสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายที่เหลือจากการจัดการของ Th1 และ Th2

4. Treg ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของ Th1,Th2 และ Th17 ให้อยู่ในระดับสมดุล จึงลดอาการแพ้ภูมิตัวเอง และข้อมูลล่าสุด Treg ยังทำให้เชื้อไวรัส HIV แบ่งตัวช้าลง

     คณะนักวิจัย Operation Bim ได้วิจัย และพัฒนาเสริมประสิทธิภาพจากสารมังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก จนได้แคปซูลเสริมอาหาร ที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์แล้วว่าสามารถกระตุ้นการทำงานของ Th1 เพิ่มขึ้น 2 เท่า,กระตุ้น Th17 เพิ่มขึ้น 5 เท่า และ Treg เพิ่มขึ้น 2 เท่า ล่าสุดยังพบว่า IL-9 ที่เพิ่มมากขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มความสามารถในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมโดยไม่มีผลข้างเคียงและข้อมูลเบื้องต้นของการทดสอบในผู้ติดเชื้อพบว่า ภายใน 1 เดือนไม่พบการติดเชื้อราในช่องปาก และภายใน 2 เดือนผู้ที่มี CD4+ต่ำกว่า 100 เซลล์/ลบ.มม. เพิ่มเป็น 300 เซลล์/ลบ.มม. 

Visitors: 74,643